ซ้อมไวโอลินทุกวันสำคัญที่สุด! แต่ทำยังไงให้ลูกซ้อมทุกวันล่ะ? แนวคิดดีๆจากคุณแม่น้อง Chelsey ผู้ชนะการแข่งขันไวโอลิน (ตอนที่ 2/5)
ขอปรับความเข้าใจกันสั้นๆก่อนเลยครับว่า
“ซ้อมทุกวัน วันละไม่กี่นาที ยังดีกว่าซ้อมอัดกันวันเดียวนานเป็นชั่วโมง”
การจะฝึกฝนสิ่งใหม่จนเกิดเป็นความชำนาญนั้น ไม่สามารถเร่งได้โดยการอัดเข้าไปในวันเดียวเยอะๆ แต่ต้องอาศัยการสะสมทุกวันครับ
สำหรับเด็กเล็ก จะทำให้ซ้อมทุกวันนั้นไม่ยากหรอกครับถ้าฝึกตั้งแต่แรก ครูมีวิธีมาฝากครับ
ขั้นแรกสุดของการฝึกให้ลูกซ้อมทุกวัน
ก้าวแรกสุดเกิดขึ้นก่อนจะเริ่มเรียนไวโอลินอีกครับ
โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำข้อตกลงให้ชัดเจนกับลูกก่อน ว่าถ้าอยากเรียนจะต้องซ้อมทุกวันนะ แต่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยหนูซ้อมทุกๆวันเลย
ทำให้เขาเข้าใจก่อนครับ ว่าการซ้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนไวโอลิน และสิ่งนี้ไม่ใช่การปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวรับผิดชอบอยู่คนเดียวในช่วงแรกครับ
หลังจากนั้นต้องทำให้เกิดการซ้อมเป็นกิจวัตรประจำวันให้ได้จริงๆครับ โดยไม่สำคัญว่าจะต้องซ้อมนานแค่ไหน
เอาแค่ให้เกิดนิสัยในการซ้อมทุกวันให้ได้ก่อนก็พอครับ
ในช่วงแรกๆของการเรียนไวโอลิน แค่ซ้อมวันละ 3-5 นาทีได้ทุกวันก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การจัดตารางเวลาซ้อมให้เหมือนกันทุกวันก็ช่วยได้เยอะครับ เช่น ซ้อมทุกวันหลังกินข้าวเย็น ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกวัน ไม่เกินเดือนก็หมดปัญหาเรื่องลูกไม่ซ้อมไวโอลินแล้วครับ
วินัยของลูก เกิดจากวินัยของคุณ
ความยากคือผู้ปกครองต้องมีส่วนช่วยน้องเยอะมากๆครับในช่วงแรก
ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็ก จะคิดภาพเหมือนในหนัง ที่ส่งลูกไปเรียนไวโอลิน ลูกชอบและหลงรักในเสียงไวโอลินมากๆ จนต้องกลับมาซ้อมที่บ้านทุกวันด้วยตนเอง….
อันนั้นคือส่วนน้อยมากๆครับที่จะเป็นแบบนั้น
วินัยในการซ้อมส่วนใหญ่เกิดจากคุณพ่อคุณแม่ฝึกให้น้องซ้อมที่บ้านครับ ยิ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเรียนจะไม่มีปัญหาอะไรแม้แต่น้อยครับ
แต่ถ้าเคยเรียนไปแล้ว เคยไม่ซ้อมจนเป็นนิสัยไปแล้ว จะฝึกให้ซ้อมทุกวันนั้นจะยากกว่ามากๆครับ ต้องใช้ความพยายามและความอดทนกันเป็น 2 เท่าเลยทีเดียวครับ ที่จะปรับเปลี่ยนให้เขาเข้าใจว่าหลังจากนี้ต้องซ้อมทุกวันนะ
สำหรับน้องเชลซีและเรื่องการซ้อมนั้น คุณแม่น้องเล่าให้ฟังว่า
“คุณพ่อไปนั่งอยู่ในชั่วโมงเรียนพร้อมกับลูกเพื่อช่วยเก็บรายละเอียด และเป็นไปตามหลักสูตรที่ครูนุวางไว้ว่า ให้ผู้ปกครองเข้าไปอยู่ในห้องเรียนพร้อมลูก
ในช่วงแรกของการเรียนมีความขลุกขลัก และข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ด้วยความเอาจริงเอาจังของคุณพ่อที่ไม่ยอมปล่อยผ่าน ต้องการให้ฝึกซ้อมการบ้านตามที่คุณครูสั่งในทุกๆ วัน จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวินัยในการฝึกซ้อมให้กับลูก”
และนับตั้งแต่วันแรกที่คุณพ่อของน้องคอยฝึกซ้อมให้ลูก จนทุกวันนี้น้องก็ซ้อมเองทุกวันจนติดเป็นนิสัยไปแล้วครับ โดยคุณพ่อไม่จำเป็นต้องอยู่คุมซ้อมทุกวันเหมือนในช่วงแรกๆอีกต่อไปครับ
เทคนิคพิเศษที่ทำให้ลูกหยุดนิสัยขี้เกียจซ้อมไวโอลิน
มีเด็กหลายคนครับ ที่รับผิดชอบการบ้านวิชาต่างๆได้ดี ทำการบ้านเลขทุกวัน แต่ไม่ซ้อมไวโอลิน
ครูก็เคยสงสัยมาตลอด ว่าทำไมถึงต้องมาเจาะจง ไม่ทำการบ้านเฉพาะวิชาไวโอลินครับ
คำตอบคือ เพราะในบางครั้ง การซ้อมนั้นขาดความเป็นรูปธรรมครับ
ครูวิชาเลขไม่เคยบอกให้นักเรียนซ้อมทำเลขวันละ 10 นาทีครับ แต่จะให้มาเป็นข้อเลย ว่าต้องฝึกวันละกี่ข้อ เมื่อทำเสร็จแล้วเห็นชัดเจนว่าได้ทำ เพราะมีลายมือเขียนลงไปบนสมุดทั้ง 10 ข้อ
แต่การซ้อมไวโอลิน บางครั้งไม่ได้มีความชัดเจนเลยครับ ว่าต้องซ้อมอะไร? มีกี่ข้อ? ครูแค่บอกว่าให้ไปซ้อม แถมจะซ้อมหรือไม่ซ้อม ก็ไม่ได้มีการเขียนออกมาบนกระดาษชัดๆว่าซ้อมไป 10 รอบแล้วเหมือนการบ้านเลข
ดังนั้นวิธีที่ช่วยให้เด็กซ้อมได้ดีมากๆคือการสร้างความเป็นรูปธรรมให้ชัดเจนมากๆครับ เช่น
“ครั้งหน้า ท่อนที่ 3 ต้องเล่นโน้ตตัวนี้ที่เพี้ยนให้ถูกต้อง” ดีกว่าแค่บอกว่า “ไปซ้อมเพลงนี้มานะ”
ยิ่งถ้าเขียนออกมาเป็นข้อๆเลย ว่าต้องแก้ไขหรือฝึกอะไรบ้าง ยิ่งมีความเป็นรูปธรรมครับ เพราะพอมาเรียนครั้งหน้า ครูสามารถตรวจเรียงข้อได้เลย ว่าซ้อมข้อไหนมาบ้าง
เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถถามคุณครูที่สอนได้ทุกคาบเรียนครับ ว่าต้องซ้อมอะไรบ้าง ขอสรุปเป็นข้อๆ แบบมีรายละเอียดได้เลยครับ
โดยอาจจะชี้แจงคุณครูก่อนเรียนว่า ช่วยเหลือเวลาท้ายคาบซัก 5-10 นาทีเพื่อสรุปการบ้านที่ต้องซ้อมให้ชัดเจนเป็นข้อๆให้คุณพ่อคุณแม่ด้วยครับ
ถ้าทำได้ตามนี้ การให้ลูกซ้อมทุกวันสามารถเป็นไปได้อย่างแน่นอนครับ
เมื่อซ้อมทุกวันได้แล้ว สิ่งต่อมาที่เป็นตัวชี้ขาดเลยว่าเด็กคนนั้นจะเล่นไวโอลินเก่งหรือไม่ คือเด็กคนนั้นซ้อมยังไง?
เพราะถ้าซ้อมได้ถูกวิธีละก็ เพียงไม่กี่นาทีต่อวันก็จะเห็นความคืบหน้าได้อย่างชัดเจน
แต่เด็กที่ซ้อมไม่เป็น ต่อให้ซ้อมทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ก็ยังเรียนย่ำอยู่กับที่ได้ครับ
ในบทความหน้า ผมและน้อง Chelsey จะมาแนะนำวิธีซ้อมดีๆที่น้องใช้อยู่ในปัจจุบันจนสามารถแข่งชนะรางวัล Gold prize มาได้ครับ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาปรับใช้กับลูกได้ด้วยตนเองครับ