เด็กไม่มีสมาธิกับสมาธิสั้นไม่เหมือนกันนะครับ
เด็กไม่มีสมาธินี่แทบจะเป็นเรื่องปกติซึ่งจะค่อยๆพัฒนาขึ้นตามวัยของเขาครับ ค่อยๆดึงความสนใจก็จะกลับมาตั้งใจเรียนได้ถ้าครูมีจิตวิทยาที่ดีพอ แต่เด็กสมาธิสั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่เคยได้สัมผัสจะพบว่าเป็นอะไรที่เหนือกว่าเด็กไม่มีสมาธิมากๆ จะยุกยิกๆ อยู่ตลอดเวลา เหมือนพลังงานเกินอย่างเหลือล้นเลยครับ
เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว (2558) ผมเคยสอนเด็กสมาธิสั้นอยู่คนนึง ซึ่งตอนแรกที่เจอกันเนี่ย ดูเรียบร้อย ตั้งใจเรียนมากๆ ไม่บอกก็ไม่รู้ครับว่าสมาธิสั้น ออกจะดูเบลอๆ งงๆ ด้วยซ้ำ ถึงเพิ่งมมารู้ทีหลังว่าจริงๆแล้วน้องคนนั้นต้องทานยาทางจิตเวชเพื่อกดอาการเอาไว้เพื่อให้นิ่งและเรียนได้ครับ
ปรากฎว่ามีอยู่วันนีงที่น้องลืมกินยาแล้วมาเรียนถึงพบว่าเวลาอาการกำเริบนี่แทบจะสอนไม่ได้จริงๆ ความยุกยิก อยู่ไม่นิ่งนี่ทะลุขีดจำกัดกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นน้องก็ทานยามาเรียนทุกครั้งนั่นแหล่ะครับ โดยหลังจากนั้นผมก็สอนโดยเน้นเรื่องสมาธิเป็นสำคัญเหมือนกัน พยายามเลือกเพลงที่ไม่ยากแต่มีท่อนเพลงที่ยาวขึ้นเพื่อให้น้องสมาธินิ่งพอจนจบท่อนได้
เวลาก็ผ่านไปประมาณ 1 ปี….
น้องคนนั้นก็ยังมาเรียนอยู่จนทุกวันนี้ครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างไปคือ ไม่ต้องกินยาแล้ว จริงๆแล้วการที่น้องเลิกกินยานี่เหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญครับ เพราะคุณแม่ของน้องลืมให้กินยาแล้วพามาเรียนนี่ล่ะครับ คุณแม่กระซิบข้างหูก่อนเรียนเลย “คุณครูคะ วันนี้น้องลืมกินยา อาจจะยุกยิกสอนยากนะคะ”
ปรากฎว่าลองสอนดู เหมือนกลายเป็นคนละคนกับปีที่แล้วเลยครับ น้องนิ่งมากและเรียนเพลงได้อย่างเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไปเลยครับ จากวันนั้นที่น้องแค่เพลงสั้นๆ ยังสมาธิหลุดตลอดเวลา จนมาถึงวันนี้ที่เล่นเพลงคลาสสิคระดับ Handel ได้ทั้งท่อน ผมว่ามันเป็นพัฒนาการด้านสมาธิที่อลังการมาก!!!
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จุดประกายให้กับวิธีการสอนดนตรีแบบ MusIQ พอสมควรครับ ว่าดนตรีสามารถให้อะไรกับผู้เรียนได้มากกว่าแค่เล่นดนตรีเป็นจริงๆ
ติดตามเรื่องราวทางดนตรีดีๆเพิ่มเติมที่ : http://www.facebook.com/musiqmethod